@triananda.yb: Dada ayam anti seret, gak bakal hambar walaupun cuma pake satu bumbu aja 🤤 Pake bumbu dari @healthyrepublic aja cukup biar dada ayam-mu lebih enak 🫶🏻 #dadaayam #menudiet #tinggiprotein #chickenbreast #healthyrepublic #serunyakuliner #reseptiktok

nino
nino
Open In TikTok:
Region: ID
Monday 07 July 2025 08:36:03 GMT
41835
650
7
43

Music

Download

Comments

haiiyuan92
yuanna rasyid 🦋 :
Pan nya pake apa kak?
2025-08-02 02:42:40
0
apaajadeh1327
Apaajadeh :
tiap hari aman ga bang?
2025-07-19 02:39:33
0
kelincihutan7
🩷Miran🌸 :
makasih bang enak banget
2025-07-18 01:56:17
0
mamanya.varo0
Mamanya varo🐣 :
😂
2025-07-23 11:24:14
0
iisistiawati215
iisistiawati215 :
😁😁😁
2025-07-20 06:57:04
0
rae.0309
Rae 0309 :
🥰
2025-07-13 07:36:42
0
by.rinis
by.rinis :
😂
2025-07-10 15:35:27
0
To see more videos from user @triananda.yb, please go to the Tikwm homepage.

Other Videos

#creatorsearchinsights #Meteor จรวดไฮเปอร์โซนิกสุดไฮเทค เร็ว 6 มัค คู่ใจเครื่องบิน Gripen มูลค่าลูกล่ะ 60 ล้านบาท เตรียมประจำการในไทย มีดียังไง 🚀✨️🇹🇭 กองทัพอากาศไทยได้ประกาศแผนจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F รุ่นใหม่เพื่อทดแทนฝูงบินเก่าที่กำลังจะปลดประจำการ และหนึ่งในจุดที่ถูกจับตามองคือการยืนยันการจัดซื้ออาวุธปล่อยนำวิถี MBDA Meteor ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอาวุธปล่อยอากาศสู่อากาศที่ทันสมัยที่สุดในโลกปัจจุบัน  คำถามที่เกิดขึ้นตามมาคือ ทำไมต้องเป็นรุ่นนี้? อะไรทำให้ Meteor โดดเด่นจนกองทัพไทยเลือกซื้อทั้งที่ราคาสูง? Meteor คืออะไร? MBDA Meteor เป็นจรวดอากาศสู่อากาศแบบ Beyond Visual Range Air-to-Air Missile (BVRAAM) หรือ “จรวดระยะไกลนอกสายตา” ที่สามารถโจมตีเป้าหมายได้ในระยะไกลถึง 200 กิโลเมตร ซึ่งหมายความว่า เครื่องบินสามารถยิงขีปนาวุธออกไปก่อนที่เรดาร์ของฝ่ายตรงข้ามจะตรวจจับได้ด้วยซ้ำ หรือ “ยิงก่อนเห็นเป้า” หัวใจของ Meteor อยู่ที่ระบบขับเคลื่อนแบบ Ramjet ซึ่งต่างจากจรวดทั่วไปที่ใช้แรงผลักเริ่มต้นแล้วหมดพลังงานทันที ระบบ Ramjet จะดูดอากาศภายนอกมาเผาไหม้ ทำให้จรวดสามารถ “รักษาความเร็วสูงได้อย่างต่อเนื่อง” ขณะเข้าโจมตี เปรียบได้กับการมีเครื่องยนต์ที่ทำงานได้ตลอดการบิน ไม่ใช่เพียงวูบเดียวแล้วหมดแรง ส่งผลให้ Meteor มี พลังโจมตีสูงต่อเนื่องจนถึงเป้าหมาย แม้ระยะทางจะไกลมาก ความเหนือชั้นของ Meteor เทียบกับ AMRAAM ปัจจุบัน กองทัพอากาศไทยยังใช้งานจรวด AIM-120 AMRAAM ของสหรัฐฯ เป็นหลัก ซึ่งมีระยะยิงประมาณ 160 กิโลเมตร แม้จะน้อยกว่า Meteor แต่ก็ยังถือว่าเป็นอาวุธระดับมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างที่สำคัญจริงๆ ไม่ได้อยู่ที่ “ระยะสูงสุด” เท่านั้น แต่อยู่ที่สิ่งที่เรียกว่า No-Escape Zone หมายถึง “ระยะที่เมื่อจรวดถูกยิงเข้าใส่แล้ว เครื่องบินเป้าหมายไม่สามารถหลบหนีได้ แม้จะพยายามหลบหลีกทุกทาง” Meteor มี No-Escape Zone ถึง 60 กิโลเมตร AMRAAM มี No-Escape Zone เพียง ประมาณ 30 กิโลเมตร ความหมายของตัวเลขนี้คือ ถ้าศัตรูอยู่ในรัศมี 60 กิโลเมตร แล้วถูก Meteor ยิงเข้าใส่ โอกาสรอดแทบไม่มี ต่างจาก AMRAAM ที่ต้องรอให้เข้าใกล้กว่านั้นครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ Meteor ยังมีระบบนำวิถีขั้นสูงและลิงก์ข้อมูลแบบ Two-way datalink ช่วยให้ปรับเปลี่ยนเป้าหมายกลางอากาศได้ และลดความเสี่ยงต่อการหลอกล่อจากเป้าลวง (Decoys) ได้ดีกว่า ราคาและความรุนแรงที่แลกมาด้วยงบประมาณ Meteor มีราคาต่อหน่วยสูงถึง ประมาณ 60 ล้านบาทต่อลูก ขณะที่ AMRAAM อยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาทต่อลูก ซึ่งเท่ากับว่า Meteor แพงกว่า เท่าตัว  อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาความสามารถโดยเฉพาะ No-Escape Zone ที่มากกว่าเท่าตัวเช่นกัน Meteor จึงถูกมองว่า “แพงแต่คุ้ม” โดยเฉพาะเมื่อมาประจำการกับเครื่องบินอย่าง Gripen E/F ซึ่งออกแบบมาให้รองรับการใช้งานจรวดรุ่นนี้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การเลือก Meteor ไม่ได้เป็นแค่การซื้อจรวดไกลยิงได้ 200 กิโลเมตร แต่เป็นการลงทุนในระบบอาวุธที่สร้าง
#creatorsearchinsights #Meteor จรวดไฮเปอร์โซนิกสุดไฮเทค เร็ว 6 มัค คู่ใจเครื่องบิน Gripen มูลค่าลูกล่ะ 60 ล้านบาท เตรียมประจำการในไทย มีดียังไง 🚀✨️🇹🇭 กองทัพอากาศไทยได้ประกาศแผนจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F รุ่นใหม่เพื่อทดแทนฝูงบินเก่าที่กำลังจะปลดประจำการ และหนึ่งในจุดที่ถูกจับตามองคือการยืนยันการจัดซื้ออาวุธปล่อยนำวิถี MBDA Meteor ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอาวุธปล่อยอากาศสู่อากาศที่ทันสมัยที่สุดในโลกปัจจุบัน คำถามที่เกิดขึ้นตามมาคือ ทำไมต้องเป็นรุ่นนี้? อะไรทำให้ Meteor โดดเด่นจนกองทัพไทยเลือกซื้อทั้งที่ราคาสูง? Meteor คืออะไร? MBDA Meteor เป็นจรวดอากาศสู่อากาศแบบ Beyond Visual Range Air-to-Air Missile (BVRAAM) หรือ “จรวดระยะไกลนอกสายตา” ที่สามารถโจมตีเป้าหมายได้ในระยะไกลถึง 200 กิโลเมตร ซึ่งหมายความว่า เครื่องบินสามารถยิงขีปนาวุธออกไปก่อนที่เรดาร์ของฝ่ายตรงข้ามจะตรวจจับได้ด้วยซ้ำ หรือ “ยิงก่อนเห็นเป้า” หัวใจของ Meteor อยู่ที่ระบบขับเคลื่อนแบบ Ramjet ซึ่งต่างจากจรวดทั่วไปที่ใช้แรงผลักเริ่มต้นแล้วหมดพลังงานทันที ระบบ Ramjet จะดูดอากาศภายนอกมาเผาไหม้ ทำให้จรวดสามารถ “รักษาความเร็วสูงได้อย่างต่อเนื่อง” ขณะเข้าโจมตี เปรียบได้กับการมีเครื่องยนต์ที่ทำงานได้ตลอดการบิน ไม่ใช่เพียงวูบเดียวแล้วหมดแรง ส่งผลให้ Meteor มี พลังโจมตีสูงต่อเนื่องจนถึงเป้าหมาย แม้ระยะทางจะไกลมาก ความเหนือชั้นของ Meteor เทียบกับ AMRAAM ปัจจุบัน กองทัพอากาศไทยยังใช้งานจรวด AIM-120 AMRAAM ของสหรัฐฯ เป็นหลัก ซึ่งมีระยะยิงประมาณ 160 กิโลเมตร แม้จะน้อยกว่า Meteor แต่ก็ยังถือว่าเป็นอาวุธระดับมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างที่สำคัญจริงๆ ไม่ได้อยู่ที่ “ระยะสูงสุด” เท่านั้น แต่อยู่ที่สิ่งที่เรียกว่า No-Escape Zone หมายถึง “ระยะที่เมื่อจรวดถูกยิงเข้าใส่แล้ว เครื่องบินเป้าหมายไม่สามารถหลบหนีได้ แม้จะพยายามหลบหลีกทุกทาง” Meteor มี No-Escape Zone ถึง 60 กิโลเมตร AMRAAM มี No-Escape Zone เพียง ประมาณ 30 กิโลเมตร ความหมายของตัวเลขนี้คือ ถ้าศัตรูอยู่ในรัศมี 60 กิโลเมตร แล้วถูก Meteor ยิงเข้าใส่ โอกาสรอดแทบไม่มี ต่างจาก AMRAAM ที่ต้องรอให้เข้าใกล้กว่านั้นครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ Meteor ยังมีระบบนำวิถีขั้นสูงและลิงก์ข้อมูลแบบ Two-way datalink ช่วยให้ปรับเปลี่ยนเป้าหมายกลางอากาศได้ และลดความเสี่ยงต่อการหลอกล่อจากเป้าลวง (Decoys) ได้ดีกว่า ราคาและความรุนแรงที่แลกมาด้วยงบประมาณ Meteor มีราคาต่อหน่วยสูงถึง ประมาณ 60 ล้านบาทต่อลูก ขณะที่ AMRAAM อยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาทต่อลูก ซึ่งเท่ากับว่า Meteor แพงกว่า เท่าตัว อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาความสามารถโดยเฉพาะ No-Escape Zone ที่มากกว่าเท่าตัวเช่นกัน Meteor จึงถูกมองว่า “แพงแต่คุ้ม” โดยเฉพาะเมื่อมาประจำการกับเครื่องบินอย่าง Gripen E/F ซึ่งออกแบบมาให้รองรับการใช้งานจรวดรุ่นนี้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การเลือก Meteor ไม่ได้เป็นแค่การซื้อจรวดไกลยิงได้ 200 กิโลเมตร แต่เป็นการลงทุนในระบบอาวุธที่สร้าง "เขี้ยวเล็บทางอากาศ" ให้กองทัพไทยมีศักยภาพเหนือคู่แข่งในภูมิภาคอย่างชัดเจน ทั้งในแง่เทคโนโลยีการขับเคลื่อน การโจมตีในระยะปลอดภัย และความแม่นยำสูง Meteor จึงไม่ใช่แค่จรวด แต่มันคือการประกาศความพร้อมของไทยในการเข้าสู่ยุคใหม่ของการรบทางอากาศอย่างแท้จริง

About