@sasa_kechil18: #fyp #foryoupage #madurapride #katakata #lewatberanda @إندي مونيكا كيرا 🕊🇸🇦

sasaaaàᰔᩚ
sasaaaàᰔᩚ
Open In TikTok:
Region: ID
Friday 24 October 2025 00:19:23 GMT
33999
1689
11
106

Music

Download

Comments

user6946909046978
wulan :
peluk jauh mbaa🥺
2025-10-24 08:01:45
2
cewek.madura68
FanIlaa :
pernah e bueng pas sayangga, talka onggu
2025-10-24 10:15:52
1
lsnr_01
Aisyahnrfashion :
Hugg mbaa🥹
2025-10-24 13:11:03
0
citra__1233
blablabla prettt🤘🏻🦍👹 :
mbakk air mataku keluar🥺 hugg mbakk🥺☹
2025-10-24 10:48:41
2
ambar.258
BelLa :
ya allah yg aku lkukan setiap hari😭
2025-10-24 12:23:45
0
moh.syaifulloh16
Moh Syaifulloh :
oreng lebur neng seareh duareh oreng neser bedeh ampettah oreng Eman insyaAllah sa omorrah.
2025-10-24 12:28:08
0
din_h312ul
El_MunaaWwaroh🌹 :
Mbak🥺🥺🥺
2025-10-24 11:27:44
0
ahmadhamdany202
Sri Wahyuni :
boleh minta mentahan nya engga kk
2025-10-24 09:49:31
0
caramelluvee1
iyaifaa🍜 :
🗿
2025-10-24 11:15:44
0
serpihanhati5454
️ :
Tak la nangis mat,,jek sambinah ben mat
2025-10-24 13:03:34
0
To see more videos from user @sasa_kechil18, please go to the Tikwm homepage.

Other Videos

🌀สนามคลื่นพลังงานบทสวด    🔸 หน้าที่ของแกนนี้ คือเป็น “ทางขึ้นของพลังสติ” และ “ทางลงของพลังเมตตา” พลังทั้งหมดในสนามพลังจะหมุนรอบเสานี้เสมอ --- 🌀 2. ชั้นคลื่นรัศมี คลื่นนี้เกิดขึ้นจากการสั่นสะเทือนของจิตที่บริสุทธิ์ระหว่างสวด ลักษณะเป็น วงกลมซ้อนกันหลายชั้น แผ่จากอกออกไปทุกทิศ มีคลื่นความถี่ต่ำแต่แรงกระจายสูง — คลื่นแรกจะหนาและสว่าง สีไล่จาก ทอง → ส้มอมแดง → แดงอมม่วงคลื่นแต่ละชั้นห่างกัน ความเข้มของคลื่นเพิ่มตามความตั้งมั่นของจิต > 🔸 คลื่นเหล่านี้คือ “แรงส่งของบุญ” หรือ “เมตตาที่แผ่ออก” --- 🔄 3. คลื่นหมุนรอบแกน เป็นคลื่นละเอียดที่หมุนรอบตัวผู้สวดแบบเกลียวทวน–ตามเข็มสลับกัน เริ่มจากกลางอก หมุนขึ้นเหนือศีรษะ แล้วไหลโค้งกลับหลังลงพื้น ก่อนหมุนกลับมาด้านหน้า ลักษณะนี้คือ “ลมหายใจของพลังจิต” การหมุนวนทำให้พลังในสนามไม่กระจายสูญ แต่เวียนกลับเลี้ยงแกนกลางตลอดเวลา ความหนาแน่นของเส้นเกลียวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อสวดต่อเนื่อง > 🔸 คลื่นหมุนนี้คือการเชื่อมระหว่าง สติ–สมาธิ–ปัญญา ภายใน --- 🌕 4. สนามพลังรอบนอก สนามชั้นนอกสุดเป็น โดมแสงครึ่งวงกลม ครอบร่างผู้สวดทั้งหมด จุดยอดโดมสูงประมาณ 2–2.5 เท่าของความสูงร่างกาย สีหลักเป็น แดงอมม่วงเจือเงิน หรือบางช่วงจะออกทองแดง คลื่นโดมนี้หมุนรอบขวาช้า ๆ เหมือนคลื่นแสงสว่างเคลื่อนไปรอบ ๆ ภายในมีละอองแสงเงิน–ทองหมุนวนช้า ๆ (คือคลื่นผลสะท้อนของเมตตา) > 🔸 สนามนี้คือ “เขตคุ้มครอง” และเป็นพื้นที่สะสมพลังบุญขณะสวด --- 🌊 5. ชั้นฐานพลังแนวพื้น อยู่บริเวณใต้ฐานของร่างกาย เป็นชั้นคลื่นแผ่ราบแนวขนานพื้น สีแดงเข้ม–ส้มทอง แสดงถึง “พลังธาตุไฟ–ธาตุดิน” ที่เสริมเสถียรภาพของจิต การไหลช้าไปข้างหน้าเหมือนคลื่นน้ำ ทำให้สมาธิของผู้สวดนิ่งและมั่นคง คลื่นชั้นนี้คอยปรับสมดุลระหว่างพลังจิตที่ขึ้นสูงกับพลังโลกที่ค้ำจุนร่าง --- 💠 6. ลักษณะรวมของสนามพลังขณะสวด เมื่อผู้สวดเริ่มบท พลังจะเกิดจากอก (ศูนย์กลางเมตตา) → พุ่งขึ้นศีรษะ → ขยายรัศมีออกทุกทิศ เมื่อเข้าสมาธิกลางบท พลังทั้งหมดจะหมุนรอบตัว เกิดโดมแสงเต็มรูป เมื่อบทสวดใกล้จบ พลังทั้งหมดจะค่อย ๆ หดกลับเข้าสู่แกนกลาง แกนกลางยังคงเรืองแสงอยู่แม้เสียงสวดสิ้นสุด — นั่นคือพลังสงบของจิต --- ✴️ สรุปพลังของบทสวดนี้ > สนามพลังนี้เป็นพลัง “แสงสติ” โครงสร้างทั้งหมดหมุนรอบแกนศูนย์กลางแห่งจิต คลื่นรัศมีคือการแผ่เมตตา คลื่นเกลียวคือการรักษาสมดุลของพลัง โดมรอบนอกคือการคุ้มครองและรวมบุญ และเมื่อพลังทั้งหมดสงบลง จิตจะกลายเป็นเสาแสงนิ่งกลางจักรวาล — สัญลักษณ์ของพุทธภาวะในบทสวดนี้เอง. #มิติจักรวาล " width="135" height="240">
🌀สนามคลื่นพลังงานบทสวด "พระพุทธเจ้า 16 พระองค์" --- 🔶 1. แกนกลางพลัง จุดกำเนิดของพลังอยู่ที่ “กลางอก” เชื่อมตรงกับ “ระหว่างคิ้ว” เมื่อเริ่มสวด บริเวณนี้จะกลายเป็น เสาแสงตั้งตรงสีทองขาว พุ่งขึ้นเหนือศีรษะ แกนนี้เป็น “ทางหลักของจิต” ที่พลังทั้งหมดไหลผ่านขึ้น–ลง คลื่นพลังจากแกนกลางจะเต้นเป็นจังหวะเดียวกับเสียงสวด และจังหวะการหายใจ > 🔸 หน้าที่ของแกนนี้ คือเป็น “ทางขึ้นของพลังสติ” และ “ทางลงของพลังเมตตา” พลังทั้งหมดในสนามพลังจะหมุนรอบเสานี้เสมอ --- 🌀 2. ชั้นคลื่นรัศมี คลื่นนี้เกิดขึ้นจากการสั่นสะเทือนของจิตที่บริสุทธิ์ระหว่างสวด ลักษณะเป็น วงกลมซ้อนกันหลายชั้น แผ่จากอกออกไปทุกทิศ มีคลื่นความถี่ต่ำแต่แรงกระจายสูง — คลื่นแรกจะหนาและสว่าง สีไล่จาก ทอง → ส้มอมแดง → แดงอมม่วงคลื่นแต่ละชั้นห่างกัน ความเข้มของคลื่นเพิ่มตามความตั้งมั่นของจิต > 🔸 คลื่นเหล่านี้คือ “แรงส่งของบุญ” หรือ “เมตตาที่แผ่ออก” --- 🔄 3. คลื่นหมุนรอบแกน เป็นคลื่นละเอียดที่หมุนรอบตัวผู้สวดแบบเกลียวทวน–ตามเข็มสลับกัน เริ่มจากกลางอก หมุนขึ้นเหนือศีรษะ แล้วไหลโค้งกลับหลังลงพื้น ก่อนหมุนกลับมาด้านหน้า ลักษณะนี้คือ “ลมหายใจของพลังจิต” การหมุนวนทำให้พลังในสนามไม่กระจายสูญ แต่เวียนกลับเลี้ยงแกนกลางตลอดเวลา ความหนาแน่นของเส้นเกลียวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อสวดต่อเนื่อง > 🔸 คลื่นหมุนนี้คือการเชื่อมระหว่าง สติ–สมาธิ–ปัญญา ภายใน --- 🌕 4. สนามพลังรอบนอก สนามชั้นนอกสุดเป็น โดมแสงครึ่งวงกลม ครอบร่างผู้สวดทั้งหมด จุดยอดโดมสูงประมาณ 2–2.5 เท่าของความสูงร่างกาย สีหลักเป็น แดงอมม่วงเจือเงิน หรือบางช่วงจะออกทองแดง คลื่นโดมนี้หมุนรอบขวาช้า ๆ เหมือนคลื่นแสงสว่างเคลื่อนไปรอบ ๆ ภายในมีละอองแสงเงิน–ทองหมุนวนช้า ๆ (คือคลื่นผลสะท้อนของเมตตา) > 🔸 สนามนี้คือ “เขตคุ้มครอง” และเป็นพื้นที่สะสมพลังบุญขณะสวด --- 🌊 5. ชั้นฐานพลังแนวพื้น อยู่บริเวณใต้ฐานของร่างกาย เป็นชั้นคลื่นแผ่ราบแนวขนานพื้น สีแดงเข้ม–ส้มทอง แสดงถึง “พลังธาตุไฟ–ธาตุดิน” ที่เสริมเสถียรภาพของจิต การไหลช้าไปข้างหน้าเหมือนคลื่นน้ำ ทำให้สมาธิของผู้สวดนิ่งและมั่นคง คลื่นชั้นนี้คอยปรับสมดุลระหว่างพลังจิตที่ขึ้นสูงกับพลังโลกที่ค้ำจุนร่าง --- 💠 6. ลักษณะรวมของสนามพลังขณะสวด เมื่อผู้สวดเริ่มบท พลังจะเกิดจากอก (ศูนย์กลางเมตตา) → พุ่งขึ้นศีรษะ → ขยายรัศมีออกทุกทิศ เมื่อเข้าสมาธิกลางบท พลังทั้งหมดจะหมุนรอบตัว เกิดโดมแสงเต็มรูป เมื่อบทสวดใกล้จบ พลังทั้งหมดจะค่อย ๆ หดกลับเข้าสู่แกนกลาง แกนกลางยังคงเรืองแสงอยู่แม้เสียงสวดสิ้นสุด — นั่นคือพลังสงบของจิต --- ✴️ สรุปพลังของบทสวดนี้ > สนามพลังนี้เป็นพลัง “แสงสติ” โครงสร้างทั้งหมดหมุนรอบแกนศูนย์กลางแห่งจิต คลื่นรัศมีคือการแผ่เมตตา คลื่นเกลียวคือการรักษาสมดุลของพลัง โดมรอบนอกคือการคุ้มครองและรวมบุญ และเมื่อพลังทั้งหมดสงบลง จิตจะกลายเป็นเสาแสงนิ่งกลางจักรวาล — สัญลักษณ์ของพุทธภาวะในบทสวดนี้เอง. #มิติจักรวาล

About