@workout_zone34: Chest day is the best day! 🔥 Try this workout to build a bigger and stronger chest. 💪 #exercise #Fitness #gym #GymTok #workout #muscle #workoutroutine #fitnesstips #Chest #Chestworkout

workout_zone34
workout_zone34
Open In TikTok:
Region: US
Friday 17 October 2025 13:00:00 GMT
19710
382
9
52

Music

Download

Comments

marcelino3062
Marcelino :
🥰
2025-10-19 14:55:41
1
eder.de.jesus.men
♥︎♥︎♥︎EDER♥︎♥︎♡♡ :
👍👍👍
2025-11-16 23:29:29
0
8416muza
myza 8416 :
😁
2025-11-03 14:39:12
0
jimmysepta09
𝐉𝐢𝐦𝐦𝐲𝐬𝐞𝐩𝐭𝐚 :
2025-10-23 14:44:21
0
atinafkekiyya
atinafkekiyya :
🥰
2025-10-21 04:55:49
0
alexperezlopez04
alexperezlopez04 :
👍
2025-10-21 03:58:09
0
kap.pu18
kap pu :
👌
2025-10-19 23:11:21
0
paizmuhammad1
💞فیض محمد آشنا💞 :
🥰🥰🥰
2025-10-18 10:13:59
0
ashenafiababa12
ashnefi ababa :
🥰
2025-10-17 21:11:04
0
To see more videos from user @workout_zone34, please go to the Tikwm homepage.

Other Videos

แอบอัดคลิปเสียงนายจ้าง นำไปเป็นหลักฐานในการฟ้องคดีแรงงานได้หรือไม่ คดีในศาลยุติธรรมมีการแชร์ ฎีกา ๓๗๘๒/๒๕๖๔ ซึ่งศาลฎีกาพิพากาาว่าการอัดคลิปเสียงลงโทรศัพท์โดยที่คู่สนทนาไม่ทราบย่อมเป็นการกระทบกระเทือนสิทธิเสรีภาพของบุคคลอย่างชัดแจ้ง  เป็นการแสวงหาพยานหลักฐานไม่ชอบตาม ป.วิ.อาญา มาตรา ๒๖๖  ก่อนจะตอบคำถามว่านำหลักการนี้มาใช้กับคดีแรงงานหรือไม่  ขออธิบายก่อนว่าเหตุใดในคดีอาญาจึงไม่อาจนำเอาการแอบอัดคลิปเสียงไปใช้เป็นพยานหลักฐานได้เสียก่อน  ในทางกฎหมายมีหลัก “ต้นไม้เป็นพิษ ดอกผลก็เป็นพิษ” (Fruit of the poisonous) หมายความว่า ถ้าพยานหลักฐานที่ได้มาด้วย “วิธี” อันมีมลทินด่างพร้อย ไม่ถูกต้อง หรือหลอกลวงหรือก่อ-กระตุ้น-ยุยง-กดดันให้ผู้บริสุทธิ์กระทำความผิด(เปรียบเสมือนต้นไม้)  ย่อมส่งผลให้พยานหลักฐานที่ได้มาใช้ไม่ได้ (เปรียบเสมือนดอกผล)  เช่น หลอกให้เขาขายแผ่นซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ โดยไม่พบว่าคนขายมีพฤติการณ์ที่เกียวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ ถือว่าเป็นการได้พยานหลักฐานมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย (ฎีกา. ๔๐๗๗/๒๕๔๙) เป็นการหลอกล่อผู้บริสุทธิ์ให้กระทำความผิด แต่ถ้าหลอกล่อคนที่จะกระทำความผิดอยู่แล้ว เช่น สายลับล่อซื้อยาเสพติด ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการหลอกล่อให้คนบริสุทธิ์กระทำความผิด ย่อมใช้เป็นพยานหลักฐานได้ (ฎีกา ๘๑/๒๕๕๑) รวมถึงการอัดคลิปเสียงข้างต้นก็เป็นไปตามหลักการนี้ แต่ในคดีแรงงานนั้น ฎีกาที่ ๓๐๐๑/๒๕๖๑ พิพากษาว่าศาลแรงงานสามารถรับฟังพยานคลิปเสียง หรือเทปบันทึกเสียงสนทนาได้ เพราะคดีแรงงานอันเป็นคดีแพ่งตามกฎหมายแรงงาน อย่างไรก็ตาม คดีแรงงานเป็นการแสวงหาข้อเท็จจริง ซึ่งวิธีพิจารณาคดีไม่ได้เคร่งครัดดังเช่นในคดีอาญา อีกทั้ง การอัดคลิปก็ไม่น่าจะเป็นการหลอกล่อให้คนบริสุทธิ์กระทำผิด หรือพูด หรือทำในสิ่งที่ผิดต่อกฎหมายแรงงาน (entrapment) กลับกันน่าจะเป็นเรื่องที่ตัวนายจ้าง หรือผู้แทนนายจ้างซึ่งมีอำนาจหรือสถานะเหนือลูกจ้างได้กระทำโดยตนเองตามเจตนาที่มีอยู่แล้ว ดังนั้น คดีแรงงานจึงสามารถนำคลิปเสียงที่แอบอัดเป็นพยานหลักฐานได้ ที่มา  -จิรนิติ หะวานนท์, “หลักการไม่รับฟังพยานหลักฐานที่ได้มาโดยมิชอบ:  เปรียบเทียบระหว่างกฎหมายอเมริกันและกฎหมายเยอรมัน,” ดุลพาหะ: ๓๖. -Alec Samuels, “Comment Illegally Obtained Evidence: In or Out?,” The Journal of Criminal Law: 412 #กฎหมายแรงงานbyรศตรีเนตร #กฎหมายคุ้มครองแรงงาน #ลูกจ้าง #อัดคลิป #ศาลแรงงาน
แอบอัดคลิปเสียงนายจ้าง นำไปเป็นหลักฐานในการฟ้องคดีแรงงานได้หรือไม่ คดีในศาลยุติธรรมมีการแชร์ ฎีกา ๓๗๘๒/๒๕๖๔ ซึ่งศาลฎีกาพิพากาาว่าการอัดคลิปเสียงลงโทรศัพท์โดยที่คู่สนทนาไม่ทราบย่อมเป็นการกระทบกระเทือนสิทธิเสรีภาพของบุคคลอย่างชัดแจ้ง เป็นการแสวงหาพยานหลักฐานไม่ชอบตาม ป.วิ.อาญา มาตรา ๒๖๖ ก่อนจะตอบคำถามว่านำหลักการนี้มาใช้กับคดีแรงงานหรือไม่ ขออธิบายก่อนว่าเหตุใดในคดีอาญาจึงไม่อาจนำเอาการแอบอัดคลิปเสียงไปใช้เป็นพยานหลักฐานได้เสียก่อน ในทางกฎหมายมีหลัก “ต้นไม้เป็นพิษ ดอกผลก็เป็นพิษ” (Fruit of the poisonous) หมายความว่า ถ้าพยานหลักฐานที่ได้มาด้วย “วิธี” อันมีมลทินด่างพร้อย ไม่ถูกต้อง หรือหลอกลวงหรือก่อ-กระตุ้น-ยุยง-กดดันให้ผู้บริสุทธิ์กระทำความผิด(เปรียบเสมือนต้นไม้) ย่อมส่งผลให้พยานหลักฐานที่ได้มาใช้ไม่ได้ (เปรียบเสมือนดอกผล) เช่น หลอกให้เขาขายแผ่นซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ โดยไม่พบว่าคนขายมีพฤติการณ์ที่เกียวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ ถือว่าเป็นการได้พยานหลักฐานมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย (ฎีกา. ๔๐๗๗/๒๕๔๙) เป็นการหลอกล่อผู้บริสุทธิ์ให้กระทำความผิด แต่ถ้าหลอกล่อคนที่จะกระทำความผิดอยู่แล้ว เช่น สายลับล่อซื้อยาเสพติด ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการหลอกล่อให้คนบริสุทธิ์กระทำความผิด ย่อมใช้เป็นพยานหลักฐานได้ (ฎีกา ๘๑/๒๕๕๑) รวมถึงการอัดคลิปเสียงข้างต้นก็เป็นไปตามหลักการนี้ แต่ในคดีแรงงานนั้น ฎีกาที่ ๓๐๐๑/๒๕๖๑ พิพากษาว่าศาลแรงงานสามารถรับฟังพยานคลิปเสียง หรือเทปบันทึกเสียงสนทนาได้ เพราะคดีแรงงานอันเป็นคดีแพ่งตามกฎหมายแรงงาน อย่างไรก็ตาม คดีแรงงานเป็นการแสวงหาข้อเท็จจริง ซึ่งวิธีพิจารณาคดีไม่ได้เคร่งครัดดังเช่นในคดีอาญา อีกทั้ง การอัดคลิปก็ไม่น่าจะเป็นการหลอกล่อให้คนบริสุทธิ์กระทำผิด หรือพูด หรือทำในสิ่งที่ผิดต่อกฎหมายแรงงาน (entrapment) กลับกันน่าจะเป็นเรื่องที่ตัวนายจ้าง หรือผู้แทนนายจ้างซึ่งมีอำนาจหรือสถานะเหนือลูกจ้างได้กระทำโดยตนเองตามเจตนาที่มีอยู่แล้ว ดังนั้น คดีแรงงานจึงสามารถนำคลิปเสียงที่แอบอัดเป็นพยานหลักฐานได้ ที่มา -จิรนิติ หะวานนท์, “หลักการไม่รับฟังพยานหลักฐานที่ได้มาโดยมิชอบ: เปรียบเทียบระหว่างกฎหมายอเมริกันและกฎหมายเยอรมัน,” ดุลพาหะ: ๓๖. -Alec Samuels, “Comment Illegally Obtained Evidence: In or Out?,” The Journal of Criminal Law: 412 #กฎหมายแรงงานbyรศตรีเนตร #กฎหมายคุ้มครองแรงงาน #ลูกจ้าง #อัดคลิป #ศาลแรงงาน

About